วิธีทานอาหารเพื่อสุขภาพ ระหว่างท่องเที่ยว และดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษ

28
Woman with hat sitting on chairs beach in beautiful tropical beach. Woman relaxing on a tropical beach at Koh Nangyuan island.

ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาสำหรับการผ่อนคลาย พักผ่อน และหยุดพักจากกิจกรรมประจำวันของเรา รวมถึงเป็นโอกาสดีในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการชิมอาหารท้องถิ่น ที่ไม่คุ้นเคย

ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษาและการฝึกอบรมโภชนาการระดับโลก เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เปิดเผยว่า เมื่อเราไปเที่ยวพักผ่อน เราไม่ได้ต้องการเพียงแค่การท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังต้องการเพลิดเพลินไปกับอาหารใหม่ๆ ด้วย เพราะใครจะไม่อยากลองชิมอาหารท้องถิ่นและพักการรับประทานอาหารประจำวันแบบเดิมๆ ของเราลงบ้าง แต่ทั้งนี้การไปเที่ยวพักผ่อนไม่ได้หมายความว่าคุณต้องละทิ้งโภชนาการที่ดีไป โดยคุณสามารถเดินทางท่องเที่ยว รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สำรวจพื้นที่ใหม่ๆ และดื่มด่ำกับกิจกรรมที่ชื่นชอบตามโอกาสต่างๆ ได้ เพียงทำตามคำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้

ดื่มให้เต็มที่
เมื่อนึกถึงฤดูร้อน เราก็จะนึกถึงภาพน้ำผลไม้ที่ประดับด้วยร่มกระดาษเล็กๆ แม้ว่าส่วนผสมหลายอย่างในเครื่องดื่มนั้นๆ จะทำให้มีรสชาติที่อร่อย แต่ก็เต็มไปด้วยแคลอรีจากแอลกอฮอล์ น้ำเชื่อม และน้ำผลไม้ ซึ่งเราสามารถหลีกเลี่ยงความล่อใจที่อาจจะทำให้เราดื่มเครื่องดื่มรสหวานเหล่านี้มากเกินไป ด้วยการจำกัดปริมาณการดื่ม และดื่มน้ำเปล่า ชา หรือน้ำแร่ให้เพียงพอ โดยเฉพาะวันที่อากาศร้อนในหน้าร้อน การรักษาน้ำและความชุ่มชื้นของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราต้องดื่มน้ำทดแทนส่วนที่ถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อ เพื่อช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ และการเกิดโอเวอร์ฮีท หรือโรคฮีทสโตรก

รับประทานของว่างอย่างฉลาด
เมื่อคุณเดินเล่นไปรอบๆ เมืองหรือในสวนสนุกทั้งวัน คุณมักจะพบกับขนมและอาหารข้างทางมากมาย แต่ขนมเหล่านั้น ก็เต็มไปด้วยแคลอรี ดังนั้นพยายามลองชิมรสชาติแค่คำสองคำก็พอ แล้วแบ่งให้เพื่อนและครอบครัวของคุณแทนบ้าง มันจะช่วยให้คุณรู้สึกอยากอาหารน้อยลง ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกหิวมากเกินไป ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรรับประทานอาหารเช้าที่มีโปรตีน และพกของว่างที่ดีต่อสุขภาพติดตัวไปด้วย เช่น โปรตีนบาร์ ถั่ว หรือผลไม้
การทานขนมพื้นเมืองเองก็เป็นวิธีที่ดีในการเปิดโลกเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นได้เช่นกัน ดังนั้นบางทีการเดินทางไปแถบแคริบเบียนอาจจะน่าสนใจ เพราะในหลายๆ เมือง จะมีผักและผลไม้สดในท้องถิ่นมากมาย

ขยับร่างกายบ่อยๆ
โดยปกติการท่องเที่ยวพักผ่อนมักหมายถึงการนั่งเล่นริมทะเลสาบ สระน้ำ หรือทะเล ซึ่งในขณะที่คุณกำลังใช้เวลาผ่อนคลาย ไปกับการอ่านหนังสือ ชมวิวทิวทัศน์ หรือนั่งชิล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องละเลยการออกกำลังกายตามปกติของคุณไป โดยคุณสามารถนำรองเท้าออกกำลังกายหรือชุดว่ายน้ำติดมาด้วย เผื่อออกกำลังกายในฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำของโรงแรม อีกทั้งรีสอร์ทบางแห่งมีคลาสออกกำลังกายให้บริการ เช่น โยคะ แอโรบิกในน้ำ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายอีกหนึ่งวิธีสนุกๆ ที่จะทำให้ร่างกายของคุณได้เคลื่อนไหว หรือหากทำได้ก็ใช้วิธีนับจำนวนก้าวในแต่ละวันของคุณด้วยการเดินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างๆ นอกจากนี้ฟิตเนสบางแห่งก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการได้ และศูนย์สุขภาพชุมชนหลายแห่งก็มีกิจกรรมออกกำลังกายแบบกลุ่มด้วย

มองหาผักในมื้ออาหาร
แทนที่คุณจะพุ่งไปหาขนมปัง เนย หรือของทอดเรียกน้ำย่อย ลองเริ่มต้นแต่ละมื้อด้วยผักสีเขียวดูสิ ทั้งสลัดและผักต่างๆ นับเป็นตัวเลือกที่ดีของอาหารเพื่อสุขภาพ ก่อนที่คุณจะเพลิดเพลินไปกับอาหารอื่นๆ คุณต้องพยายามให้มีผักเป็นส่วนประกอบประมาณ 50% ในมื้ออาหาร ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นเลิศรสไปพร้อมๆ กับการควบคุมอาหาร “เพื่อสิ่งที่ดีต่อตัวคุณ”

นอนหลับให้เต็มอิ่ม
ในขณะที่นึกถึงการเดินทาง เราอาจจะจินตนาการถึงเตียงแสนสบายในห้องพักสวยๆ ของโรงแรม แต่มันก็อาจจะหมายถึงการตั้งแคมป์นอนบนฟูกที่มีลมรั่ว นอนในห้องที่ผนังบางเป็นกระดาษ หรือมีสมาชิกในครอบครัวอยู่แออัดมากเกินไป ทั้งนี้มีการวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการอดนอนกับการกินมากเกินไป เพราะเมื่อเราเหนื่อยล้า บางครั้งเราเลือกทานอาหาร (และมักจะไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพ) เพื่อช่วยเพิ่มระดับพลังงาน โดยเฉพาะการเดินทางข้ามประเทศที่ไทม์โซนเปลี่ยน ซึ่งมักจะขัดแย้งกับรูปแบบการนอนแบบเดิมๆ ของเราได้

ดังนั้นพยายามนอนหลับและตื่นให้เป็นเวลาตามปกติในช่วงเวลาเดิมของคุณให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สามารถใช้ที่ปิดตาเพื่อทำให้รอบตัวคุณมืดลง หรือใช้ที่อุดหูเพื่อลดเสียงรบกวนลงได้ และเมื่อคุณไปทานอาหารเช้าในช่วงที่สายตายังพร่ามัว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตแบบผ่านการขัดสีและมีรสชาติหวานๆ อย่างวาฟเฟิลและขนมปังอบ กลับกันควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเติมความสดชื่นให้ร่างกายด้วยน้ำเปล่า กาแฟดำ หรือชา พร้อมกับเลือกเมนูโปรตีนที่มีประโยชน์ เช่น ไข่และโยเกิร์ตแทน

หากคุณกำลังต้องการหลีกหนีจากความเร่งรีบและความคึกคักในบ้านเกิด การไปเมืองซูริก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์อาจช่วยคุณได้ โดยจากการวิจัยขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับมลพิษทางเสียงในพื้นที่ 50 แห่ง พบว่าเมืองซูริกเป็นเมืองที่มีมลพิษทางเสียงน้อยที่สุดในโลก

” การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน เป็นเวลาที่เราจะได้สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ไปพร้อมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่การหลีกหนีจากตารางงานที่เคร่งเครียดก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเช่นกัน เพราะโภชนาการที่ดีเป็นเรื่องของความสมดุลและความพอดี ดังนั้นลองชิมอาหารท้องถิ่นก่อนแล้วค่อยออกกำลังกายเอาแคลอรีส่วนเกินออกก็ได้ จงเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนโดยไม่ละทิ้งความตั้งใจในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ” ซูซาน กล่าวทิ้งท้าย