“สตีฟ แมดเด้น” แฟชั่นแบรนด์ดังจากนิวยอร์ก เปิดสาขาแรกในไทย

20

“สตีฟ แมดเด้น” แฟชั่นแบรนด์ดังจากนิวยอร์ก ย้ำภาพความสำเร็จก้าวกระโดด ขยายสาขาสู่“โมโนสโตร์” แห่งแรกในเมืองไทย นำร่องเปิดสาขาเมกาบางนาและอีก 3 สาขาใหม่ในปี 2023

บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า STEVE MADDEN แบรนด์รองเท้าและกระเป๋าชื่อดังจากมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอกย้ำภาพความสำเร็จแบบก้าวกระโดดสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นแฟชั่นแบรนด์สไตล์นิวยอร์กด้วยการเปิด “โมโน สโตร์” แห่งแรกในเมืองไทย ณ ชั้น 1 โซนเมกาแฟชั่น ศูนย์การค้าเมกาบางนา พร้อมวางแผนขยายสาขา เปิดเพิ่มอีก 3 แห่งภายในปี 2023 ให้แฟชั่นนิสต้าได้สัมผัสประสบการณ์ช้อปแฟชั่นไอเทมส์ได้ครบครัน เต็มรูปแบบ

ดีพัก โทมาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเปิดตัวให้แฟชั่นนิสต้าชาวไทยได้รู้จักความเป็นตัวตนของ STEVE MADDEN มากยิ่งขึ้น ทางแบรนด์จึงได้เปิดร้านสาขาแรกในรูปแบบ โมโน สโตร์ (Mono Store) ของ STEVE MADDEN ประเทศไทยบนพื้นที่ขนาด 69 ตารางเมตร ณ โซนเมกาแฟชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

โดยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายของแบรนด์ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์หลักคือ ต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสตัวตนของแบรนด์ ได้มีประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่มากกว่าในแผนกรองเท้าตามห้างฯ ทั่วไป ซึ่งการที่เรามีขนาดร้านที่ใหญ่ขึ้นทำให้สามารถนำเสนอคอลเลคชั่นสินค้าได้หลากหลาย ครบครัน

ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าสนีกเกอร์ ส้นสูง คัทชู บูทส์ แซนดัล รวมถึง กระเป๋าหลากหลายดีไซน์ จากปกติที่ สตีฟ แมดเด้น จะวางจำหน่ายในเคาน์เตอร์ของแผนกรองเท้าสตรีตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำด้วยขนาดพื้นที่เพียง 25-35 ตร.ม. เท่านั้น ทั้งนี้การขยายช่องทางการจำหน่ายด้วยการเปิด โมโนสโตร์ นั้นทำให้เราต้องเพิ่มความสำคัญกับการบริการลูกค้ามากขึ้น ซึ่งข้อดีคือการที่พนักงานขายได้แนะนำพูดคุยกับลูกค้าแบบใกล้ชิด สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าแต่ละคนได้

นอกจากสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเมกาบางนาแล้ว เรายังได้วางแผนที่จะขยายสาขาร้านรูปแบบโมโน สโตร์เพิ่มอีก 3 สาขา ภายในปี 2023 โดยจะขยายไลน์สินค้าโฟกัสไปในไลน์กระเป๋าถือมากขึ้นเพราะกระเป๋าแบรนด์แฟชั่นในเมืองไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเหตุผลที่เลือกเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา เพราะที่นี่มีศักยภาพในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้อย่างหลากหลาย

ตั้งแต่ วัยรุ่น วัยทำงาน กลุ่มครอบครัว และ กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ยังสามารถแวะมาช้อปปิ้งก่อนเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย อีกทั้งความหลากหลายของร้านค้าในศูนย์ฯ ทำให้กลุ่มลูกค้าสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งวันในฐานะแหล่งช้อปปิ้งแบบครบวงจร ซึ่งเหตุผลนี้เรามั่นใจว่าจะสามารถนำพาแบรนด์ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นภายใน 2-3 ปีนี้

สตีฟ แมดเด้น ประเทศไทย เจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงอายุตั้งแต่ 20-35 ปี ในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน โดย ผู้หญิงในแบบสตีฟ แมดเด้น มีคาแรกเตอร์ชัดเจน ชอบแต่งตัว มีความเป็นแฟชั่นนิสต้าอยู่ในตัวเอง เต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจและมีสไตล์เป็นของตัวเอง เรานำเสนอสินค้าในกลุ่มรองเท้าและกระเป๋าสำหรับสุภาพสตรี เน้นดีไซน์ ความเป็นแฟชั่นที่จัดจ้านกว่าแบรนด์อื่นในระดับเดียวกัน ทุกไอเทมส์ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ดีไซน์ทันสมัย จำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ โดยช่วงราคาจะอยู่ที่ 2,100 – 5,000 บาท

นอกจากนี้ เรายังคงให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีการเติบโตสูง โดยเราทำควบคู่ไปกับการพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อในทุกช่องทางแบบ Omni Channel ด้วยการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าผ่านพนักงานเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้า สร้างฐานลูกค้าให้เหนียวแน่น เป็นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าช่วยกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่องทางการตลาดแบบ DTC ของแบรนด์ได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

เมื่อก้าวเข้ามาในร้านโมโนสโตร์ แห่งแรกของไทย สาขาเมกาบางนา ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงดีเอ็นเอและ คาแรกเตอร์ที่ชัดเจนของ STEVE MADDEN ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบในสไตล์ “อินดัสเทรียล ดีไซน์” ใช้โทนสีดำ น้ำตาล เงิน ตกแต่งด้วยวัสดุประเภท ไม้ เหล็ก กระจก โชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความเท่แต่เรียบง่าย ผสานด้วยเสน่ห์ของศิลปะแนวร็อคในยุค 90 สอดคล้องกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ STEVE MADDEN ให้กลิ่นอายความเป็นนิวยอร์ก