“ กฎ 3D ”…ช่วยชะลอความเสื่อมไตวายเรื้อรัง

20

หากมีอาการปัสสาวะขัดหรือลำบาก ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะกลางคืนบ่อยกว่าปกติ หลายคนอาจจะคิดถึงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ แต่ทั้งนี้ทราบหรือไม่ว่านี่อาจเป็นสัญญาณเตือนสำคัญของไตวายเรื้อรัง ซึ่งไตวายเรื้อรังเปรียบได้เสมือนฆาตกรเงียบ เนื่องจากในช่วงแรกแทบไม่มีสัญญาณเตือนและอาการจะปรากฏชัดเจนในช่วงระยะท้าย เมื่อไตได้รับความเสียหายไปมากแล้ว

พญ.เนสินี เก้าเอี้ยน แพทย์ชำนาญการ อายุรศาสตร์โรคไต โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง กล่าวถึงความรู้เพื่อทำความรู้จักไตเบื้องต้นว่า คนเรามีไตสองข้างมีรูปร่างคล้ายถั่ว ตั้งอยู่ในตำแหน่งแถวใต้ชายโครงด้านหลัง บริเวณบั้นเอวทั้งสองข้าง และอยู่นอกช่องท้อง ไตสองข้างต่อกับท่อปัสสาวะและมาเปิดที่กระเพาะปัสสาวะ โดยที่ไตแต่ละข้างมีหน่วยไตข้างละ 1 ล้านหน่วย เสมือนรูกรองในเครื่องกรองน้ำ

ไตมี 4 หน้าที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตปัสสาวะเพื่อกำจัดของเสีย การกำจัดสารพิษหรือยาบางชนิดออกจากร่างกาย การสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการสร้างเม็ดเลือดแดง และวิตามินดีซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก และมีหน้าที่ในการควบคุมความเป็นกรดด่างในเลือด ควบคุมความดันโลหิต สมดุลน้ำและเกลือแร่

โดยโรคทางไตมี 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีความผิดปกติของปัสสาวะแต่ไม่มีอาการแสดง กลุ่มโรคเนื้อไตอักเสบ กลุ่มโรคไตบวมน้ำ กลุ่มไตวายเฉียบพลัน และกลุ่มไตวายเรื้อรัง โรคไตวายเรื้อรัง คือภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่หลักอย่างต่อเนื่อง หรือมีการทำงานของไตน้อยลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาศัยค่าอัตราการกรองของเสียของไตปัจจัยที่เกิดไตวายเรื้อรังมีหลายสาเหตุ แต่มักเกิดจากผลจากโรคแทรกซ้อนจาก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น โรคนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยครั้ง ไตอักเสบ โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคถุงน้ำในไต รวมถึงอาจเกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSAID) ยาปฏิชีวนะบางตัว และสมุนไพร

ปัญหาของไตวายเรื้อรังมักไม่มีสัญญาณเตือนความผิดปกติจะไม่แสดงจนกว่าการทำงานของไตจะลดลงเหลือ 1 ใน 4 ของการทำงานปกติ อาการที่สงสัยว่าเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ซีด ขาบวมเมื่อกดลงไปแล้วบุ๋ม คันตามตัว ปัสสาวะกลางคืนบ่อยครั้ง ปัสสาวะเป็นฟอง ปัสสาวะเป็นเลือด

สำหรับการวินิจฉัยภาวะไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีการตรวจพบโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ตรวจเลือดพบ การทำงานของไตลดลงต่อเนื่องนานเกิน 3 เดือน อัลตราซาวด์พบ ขนาดไตเล็กลง ระดับความรุนแรงของไตวายเรื้อรัง แบ่งตามอัตราการกรองของไต มี 5 ระยะ ดังต่อไปนี้

ระยะที่1 : อัตราการกรอง>90 ไตเริ่มผิดปกติ ระยะที่2 : อัตราการกรอง 60-89 ไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น ระยะที่3 : อัตราการกรอง 30-59 ไตเรื้อรังระยะปานกลาง ระยะที่4 : อัตราการกรอง 15-29 ไตเรื้อรังระยะรุนแรง ระยะที่5 : อัตราการกรอง <15 ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

การรักษาไตวายเรื้อรังเนื่องจากความรุนแรงของไตวายเรื้อรังมีหลายระยะการรักษาจึงเป็นไปตามความรุนแรงในแต่ละระยะ ตั้งแต่การการรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของไตไปถึงการรักษาด้วยวิธีบำบัดทดแทนไต หรือการล้างไต ซึ่งจะเป็นการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 เท่านั้น

แพทย์ชำนาญการ อายุรศาสตร์โรคไต รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง จึงแนะนำการชะลอความเสื่อมไตวายเรื้อรังสามารถทำได้ ด้วย “กฎ 3D” คือ D Diet ได้แก่ คุมอาหารเค็ม โดยปริมาณโซเดียม ควรน้อยกว่า 2000 มิลลิกรัมต่อวัน คุม อาหารโปรตีนสูง ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดีร่วมกับกรดอะมิโน ปริมาณตามคำแนะนำของแพทย์ รวมทั้งคุม อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง D Drug ได้แก่ คุม ความดันโลหิตน้อยกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท คุม ระดับน้ำตาลในเลือดโดยมีเป้าหมายระดับน้ำตาลสะสม 6.5-7 % เช่น ยากลุ่ม SGLT2 inhibitor คุม ระดับไขมันให้ระดับไขมัน LDL-C น้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

อีกทั้งงดยาที่มีผลเสียต่อไต เช่น ยาแก้ปวดชนิด NSAIDs ยาสมุนไพร และ D Do ได้แก่ คุม น้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม คุม การออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ และ งด การสูบบุหรี่ เพื่อลดการรั่วของโปรตีนไข่ขาวในปัสสาวะ “กฎ 3D” ร่วมกับการไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชะลอความเสื่อมของไต