IBM เผยโฉมโปรเซสเซอร์ควอนตัมกว่า 400 คิวบิต พร้อมระบบแห่งอนาคต IBM Quantum System Two เปิดเส้นทางสู่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบ Quantum-Centric ที่มาพร้อมนวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบก้าวล้ำ
ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) จัดงาน IBM Quantum Summit 2022 ประกาศความก้าวหน้าสำคัญครั้งใหม่ด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ควอนตัม พร้อมวิสัยทัศน์ในการบุกเบิกซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบ Quantum-Centric โดยในงาน IBM Quantum Summit ปีนี้ยังได้มีการเปิดเผยถึงการเติบโตของอีโคซิสเต็มควอนตัมทั้งในส่วนของลูกค้า คู่ค้า และนักพัฒนา รวมถึงความคืบหน้าในการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมเข้าสร้างคุณประโยชน์แก่โลก
“โปรเซสเซอร์ ‘Osprey’ ใหม่ขนาด 433 คิวบิตนี้ เป็นก้าวสำคัญสู่จุดที่เราจะสามารถนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมมาช่วยแก้ปัญหาท้าทายที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถแก้ได้” ดร.แดริโอ จิล รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยไอบีเอ็ม กล่าว “เราเดินหน้าสเกลและพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบอินทิเกรชัน เพื่อต่อกรกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และลูกค้าทั่วโลก และสิ่งนี้จะเป็นรากฐานของยุคซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบ Quantum-Centric ที่กำลังจะมาถึงนี้”
ในงาน IBM Quantum Summit ครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้เปิดเผยถึงพัฒนาการใหม่ดังต่อไปนี้
โปรเซสเซอร์ Osprey ใหม่ของไอบีเอ็ม ขนาด 433 ควอนตัมบิต (คิวบิต)
IBM Osprey มีจำนวนคิวบิตมากที่สุดในบรรดาโปรเซสเซอร์แบบควอนตัมทั้งหมดของไอบีเอ็ม และมากกว่าโปรเซสเซอร์ IBM Eagle ขนาด 127 คิวบิตที่เปิดตัวไปในปี 2564 ถึงกว่าสามเท่า และมีศักยภาพในการรันการคำนวณทางควอนตัมที่มีความซับซ้อนเกินกว่าที่คอมพิวเตอร์แบบคลาสสิกจะสามารถทำได้ โดยจำนวนบิตแบบคลาสสิกที่จำเป็นสำหรับการแสดงสถานะหนึ่งบนโปรเซสเซอร์ของ IBM Osprey นั้น มีมากกว่าจำนวนอะตอมทั้งหมดในจักรวาลที่เรารู้จัก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาการสเกล คุณภาพ และความเร็วของระบบควอนตัมอย่างต่อเนื่องของไอบีเอ็ม สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ “Quantum-Centric Supercomputing: Bringing the Next Wave of Computing to Life”
ซอฟต์แวร์ควอนตัมแบบใหม่จะเข้ามาช่วยแก้ไขและลดข้อผิดพลาด
การจัดการเสียงรบกวนในคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในวงกว้าง และเพื่อลดความซับซ้อนในเรื่องนี้ ไอบีเอ็มได้ออกอัพเดตเบต้าของ Qiskit Runtime ที่วันนี้อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกปรับความเร็วเพื่อลดจำนวนข้อผิดพลาดด้วยตัวเลือกอย่างง่ายใน API
ทั้งนี้ การดึงความซับซ้อนของฟีเจอร์มาไว้ในเลเยอร์ซอฟต์แวร์ จะทำให้ผู้ใช้สามารถผนวกควอนตัมคอมพิวติ้งเข้ากับเวิร์คโฟลว์ของตน และเพิ่มความเร็วในการพัฒนาแอพพลิเคชันควอนตัมได้ง่ายขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “Introducing new Qiskit Runtime capabilities — and how our clients are integrating them into their use cases”
ข้อมูลล่าสุด IBM Quantum System Two – ระบบควอนตัมแห่งอนาคตของไอบีเอ็ม
ในขณะที่ระบบ IBM Quantum กำลังเดินหน้าสเกลสู่เป้าหมายที่สูงกว่า 4,000 คิวบิตภายในปี 2568 และหลังจากนั้น ระบบจะก้าวไปไกลกว่าขีดความสามารถในปัจจุบันของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางกายภาพที่มีอยู่ ไอบีเอ็มได้เปิดเผยรายละเอียดล่าสุดเกี่ยวกับ IBM Quantum System Two ใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีเป็นระบบโมดูลาร์ที่มีความยืดหยุ่น
โดยรวมโปรเซสเซอร์หลายตัวเข้าไว้ในระบบเดียวพร้อมด้วยลิงค์สำหรับการสื่อสาร ระบบดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเข้าสู่รูปแบบออนไลน์ภายในสิ้นปี 2566 และจะเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบ Quantum-Centric ซึ่งจะเป็นก้าวย่างถัดไปของควอนตัมคอมพิวติ้ง ที่สามารถขยายขนาดเพื่อเพิ่มความสามารถในการคำนวณได้ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์และการสื่อสารควอนตัม ร่วมกับมิดเดิลแวร์ไฮบริดคลาวด์ในการอินทิเกรทเวิร์คโฟลว์ควอนตัมและเวิร์คโฟลว์แบบคลาสสิกเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
เทคโนโลยี IBM Quantum Safe ใหม่
เมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมทรงพลังมากขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีต้องดำเนินการเพื่อปกป้องระบบและข้อมูลของตนจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคตที่มีศักยภาพในการถอดรหัสข้อมูลที่ใช้มาตรฐานด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน
โดยนอกจากไอบีเอ็มจะได้พัฒนาระบบ z16 ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบ quantum safe รวมถึงได้ร่วมสนับสนุนอัลกอริธึมอันสอดคล้องกับเป้าหมายของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) ในการกำหนดมาตรฐานภายในปี 2567 แล้ว ยังได้ผนวกรวมมาตรฐานความปลอดภัยดังกล่าวไว้ในเทคโนโลยีและบริการต่างๆ และใน Summit ครั้งนี้ ไอบีเอ็มและโวดาโฟนยังได้ประกาศความร่วมมือเพื่อสำรวจแนวทางการปรับใช้การเข้ารหัสแบบ quantum safe ของไอบีเอ็ม ทั่วทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของโวดาโฟน
การขยายอีโคซิสเต็มและลูกค้า – การเติบโตของ IBM Quantum Network
ไอบีเอ็มยังได้ประกาศสมาชิกเพิ่มเติมของของ IBM Quantum Network ที่รวมถึงบริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติอย่างโวดาโฟน เพื่อสำรวจการนำควอนตัมคอมพิวติ้งและการเข้ารหัสแบบ quantum safe มาใช้, การร่วมกับธนาคารฝรั่งเศส Crédit Mutuel Alliance Fédérale ในการสำรวจแนวทางการใช้งานในบริการทางการเงินต่างๆ
รวมถึงการร่วมกับวิทยาเขตด้านนวัตกรรมของสวิสอย่าง uptownBasel เพื่อผลักดันการพัฒนาทักษะและส่งเสริมโครงการนวัตกรรมชั้นนำบนพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ควอนตัมและเทคโนโลยีคอมพิวติ้งสมรรถนะสูง โดยองค์กรเหล่านี้เป็นสมาชิกเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันกว่า 200 องค์กร และผู้ใช้มากกว่า 450,000 ราย ที่สามารถเข้าใช้งานกลุ่มคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีมากกว่า 20 เครื่องได้โดยผ่านผ่านระบบคลาวด์
เจย์ แกมเบ็ตต้า IBM Fellow และรองประธานของ IBM Quantum กล่าวว่า IBM Quantum Summit 2022 คือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ควอนตัมของโลก ในวันที่เรากำลังก้าวไปข้างหน้าตามโร้ดแมปควอนตัม ในขณะที่เราเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการสเกลขนาดของระบบควอนตัมและทำให้ระบบใช้งานง่ายขึ้น เราก็จะได้เห็นการใช้งานและการเติบโตของอุตสาหกรรมควอนตัมควบคู่กันไปด้วย
“ความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเราจะเป็นตัวกำหนดคลื่นลูกถัดไปของวงการควอนตัม ซึ่งก็คือซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบ Quantum-Centric ที่มีการใช้สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ การสื่อสาร และมิดเดิลแวร์ เข้ามาช่วยสนับสนุนความสามารถในการสเกล การคำนวณ ตลอดจนการอินทิเกรทเวิร์คโฟลว์แบบควอนตัมและแบบคลาสสิคเข้าด้วยกัน”
แถลงการณ์เกี่ยวกับทิศทางและเจตนารมณ์ในอนาคตของไอบีเอ็ม อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือการเพิกถอนได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ และแสดงถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์เท่านั้น