บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) สานต่อโครงการ “ส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้ ปีที่ 9” ขยายจำนวนกลุ่มเกษตรกรที่ร่วมโครงการลดใช้สารเคมี ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 20,000 ไร่ พร้อมตรวจเข้มตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่แปลงปลูกถึงมือผู้บริโภค สร้างผลตอบรับดีต่อเนื่อง คาดทั้งปี 2565 รับซื้อกว่า 4,500 ตัน สร้างรายได้มั่นคงให้เกษตรกรไทย
ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ส้มเป็นผลไม้ยอดนิยมในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะส้มที่ปลูกในประเทศไทยผ่านโครงการ “ส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้” ที่แม็คโคร ได้ร่วมทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พัฒนาเกษตรกรให้ยกระดับมาตรฐานการเพาะปลูกเพื่อผลผลิตที่ปลอดภัย ลดการใช้สารเคมี โดยเฉพาะในแหล่งเพาะปลูกสำคัญ อาทิ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ จ.แพร่ มาตลอด 9 ปี ส่งผลให้ผลผลิตส้มที่ได้ มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
“ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา แม็คโคร และภาคีเครือข่ายในโครงการส้มปลอดภัย คนไทยยิ้มได้ ทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกร โดยเราเน้นกระบวนการตรวจเข้มสารเคมีตกค้างตลอดห่วงโซ่ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น เกษตรกรขายผลผลิตได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีรายได้ที่มั่นคง จนกระทั่งมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น มีพื้นที่ปลูกส้มปลอดภัยครอบคลุมมากกว่า 20,000 ไร่”
ชาวสวนส้มปลอดภัยที่ส่งผลผลิตจำหน่ายกับแม็คโคร จะเก็บเกี่ยวผลผลิตในระยะที่ปลอดภัย ภายหลังการใช้สารกำจัดแมลง รวมถึงกระตุ้นให้เกษตรกรใช้ย่าฆ่าแมลงลดน้อยลง เน้นใช้สารชีวภัณฑ์จากสะเดาทดแทน ซึ่งผลผลิตต้องผ่านการตรวจสอบสารเคมีตกค้าง ตั้งแต่ต้นฤดูกาล จนถึงปลายฤดู ด้วยห้องปฎิบัติการรับรองมาตรฐานระดับสากล ISO/IEC 17025 โดยแม็คโคร จะเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจสินค้าทุกล็อตก่อนออกจากสวน และที่ศูนย์กระจายสินค้า ที่สำคัญข้อมูลความปลอดภัยต่างๆ เหล่านี้ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด makro i-Trace ที่ติดอยู่ในบรรจุภัณฑ์ หรือป้ายแสดงคิวอาร์โค้ด ณ จุดจำหน่าย สำหรับ สายพันธุ์ส้มในโครงการดังกล่าว เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทย ประกอบด้วย ส้มสายน้ำผึ้ง นัมเบอร์วัน เช้ง เขียวหวาน โอเชี่ยน และคัมควอท ซึ่งในปี 2022 นี้ แม็คโคร รับซื้อส้มปลอดภัยจากชาวสวนมากกว่า 4,500 ตัน
“เรายังพบอีกด้วยว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้ สามารถสานต่ออาชีพการทำไร่ส้มจากรุ่นสู่รุ่นได้ นับเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้เกษตรกรไทยมีความเข้มแข็ง โดยมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน” ศิริพร กล่าว