เอฟ แอนด์ เอ็น ขยายฐานแข็งแกร่งในอินโดจีนด้วยการคว้าสิทธิ์เพิ่มเติมจากเนสท์เล่

19
ลิม ยิว โฮ (ขวา) สุชิต ริ้วจรูญ (ซ้าย) วิคเตอร์ เซียห์ (กลาง) 

บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ โฮลดิ้งส์ เบอร์ฮาด (เอฟแอนด์เอ็น) คว้าสัญญาลิขสิทธิ์เพิ่มเติมจากบริษัท โซซิเอเต้ เดส์ โปรดุยต์ส เนสท์เล่ เอส.เอ. และ เนสท์เล่ เอส.เอ. (เนสท์เล่) ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสเตอริไลส์ “ตราหมี” ในประเทศกัมพูชา เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจของกลุ่มเอฟแอนด์เอ็นในภูมิภาคอินโดจีน

ภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ นอกจากเอฟแอนด์เอ็นจะได้ลิขสิทธิ์จากเนทส์เล่ทั้งการผลิตนมสเตอริไลส์ตราหมีสำหรับประเทศกัมพูชาแล้ว เอฟแอนด์เอ็นยังสามารถดำเนินการจัดจำหน่ายและบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์นม สเตอริไลส์ตราหมีโดยตรงกับผู้บริโภคในประเทศกัมพูชา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ไปจนถึงปี 2580

การขยายสัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์กับเนสท์เล่เดิมเมื่อปี 2550 และได้มีการต่อสัญญาเมื่อปี 2558 โดยปัจจุบันเอฟแอนด์เอ็นเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสเตอริไลส์ตราหมี และนมตราหมีโกลด์ในประเทศไทยและลาว รวมทั้งผลิต ส่งเสริมการขยาย และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์คาร์เนชั่นในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา รวมถึงจำหน่ายนมกระป๋องคาร์เนชั่น นมข้นจืดไอดีล นมข้นหวานมิลค์เมด และครีมเทียมชนิดหวานสำหรับเครื่องดื่ม ในประเทศมาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ ไปจนถึงปี 2580

ลิม ยิว โฮ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ โฮลดิ้งส์ เบอร์ฮาด กล่าวว่า การขยายสัญญาเพิ่มเติมเป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของเนสท์เล่ที่มีต่อเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์จะสนับสนุนให้ทั้งสองบริษัทผนึกกำลังสร้างคุณค่าแก่ผู้บริโภค โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองบริษัทในภูมิภาค

วิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า “ความร่วมมือของเนสท์เล่กับเอฟแอนด์เอ็นจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในภูมิภาคอินโดจีนและส่งผลดีต่อทั้งสองบริษัท เอฟแอนด์เอ็นได้ผลิตและจำหน่ายนมสเตอริไลส์ตราหมีและเครื่องดื่มตราหมีโกลด์ในประเทศไทยและลาวอย่างมีประสิทธิภาพ ผมมั่นใจว่าการแต่งตั้งเอฟแอนด์เอ็นให้ผลิต จัดจำหน่าย และบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์นม สเตอริไลส์ตราหมีในกัมพูชาจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือและศักยภาพที่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในท้ายที่สุด เนสท์เล่ในอินโดจีนจะทำงานร่วมกับเอฟแอนด์เอ็น เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค ตามวิสัยทัศน์การเปิดพลังแห่งอาหารเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อทุกคนในวันนี้และในอนาคต”

สุชิต ริ้วจรูญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ขณะนี้เราสามารถให้บริการแก่ผู้บริโภคในประเทศไทย กัมพูชา และลาว อย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง (end-to-end) ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ระดับภูมิภาคสำหรับผลิตภัณฑ์นมสเตอริไลส์ตราหมีและเครื่องดื่มตราหมีโกลด์ การขยายสัญญาช่วยให้เราบริหารกิจกรรมทางการค้าและการตลาดให้สอดคล้องกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าผู้ทรงคุณค่า เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีกับโอกาสนี้และหวังจะได้มอบคุณค่าที่ดียิ่งกว่าเดิมให้กับผู้บริโภคในภูมิภาค”

ปัจจุบันนมสเตอริไลส์ตราหมีผลิตที่โรงงานเอฟแอนด์เอ็นโรจนะซึ่งเป็นโรงงานผลิตนมบรรจุกระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนของกลุ่มเอฟแอนด์เอ็น พร้อมบูรณาการกับเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กว้างขวางผ่านศูนย์กระจายสินค้าโรจนะในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการเติบโตในอนาคตของภูมิภาคอินโดจีน

“ในเวลาเดียวกันที่เอฟแอนด์เอ็น ได้ก่อตั้งโรงงานนมพร้อมดื่มและเครื่องดื่มจากพืช (Plant Based) แห่งใหม่ในอำเภอวังม่วง เอฟแอนด์เอ็นจึงพร้อมดำเนินการเชิงรุกในธุรกิจนมพร้อมดื่มมากขึ้น ในฐานะผู้นำตลาดนมบรรจุกระป๋อง เรามีแบรนด์นมบรรจุกระป๋องในภูมิภาคที่ครอบคลุม จึงมั่นใจว่า ด้วยความเชี่ยวชาญของเราในตลาดและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม จะกระตุ้นให้ตลาดนี้โตขึ้นได้อีกมาก” นายลิม กล่าวสรุป