กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าผลักดันซอฟท์พาวเวอร์อาหารไทย ยกระดับสินค้า สร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมจุดแข็ง เพื่อแข่งขันในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปให้มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากล
โดยยังคงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของอาหารไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการส่งออกทั้งอาหารไทยสำเร็จรูปที่รับประทานได้ง่าย และวัตถุดิบสำหรับอาหารไทย อาทิ เครื่องแกง เครื่องปรุงรส ที่สามารถนำไปรังสรรค์เป็นหลากหลายเมนูได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็สามารถเข้าถึงอาหารไทยแท้ได้ง่าย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุด
“ข้าวซอยไก่ อันดับ 1 อาหารไทย ถูกใจนักรีวิวทั่วโลก”
จากธุรกิจ SMEs ที่เป็นผู้ให้บริการรับผลิตอาหาร OEM เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทำให้ยอดขายลดลงเป็นอย่างมาก จึงทำให้ คุณจุไรรัตน์ รามจาตุ กรรมการผู้จัดการบริษัท อารีฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด หันมาทำอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานทั้งคาว หวาน ภายใต้เฮ้าส์แบรนด์ (House Brand) ของห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ต่อมาลูกสาวได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปสู่ตลาดโลก (T-SAPP) กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้แรงบันดาลใจ นำความรู้จากการอบรมมาผสานกับความรู้ด้านการตลาดที่ตนเองมีเป็นทุนเดิม นำมาสร้างแบรนด์ของตนเอง ในชื่อ Taste Aree
โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกของแบรนด์ คือ ข้าวซอยไก่ โดยมีประเทศกลุ่มเป้าหมายที่จะส่งออกในอนาคต คือ จีนและตะวันออกกลาง มีการขายผ่านตัวแทนไปยังประเทศอังกฤษ และอเมริกา
ข้าวซอยไก่ เป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคเหนือ และเป็นที่รู้จักในระดับโลก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถเก็บรักษาได้นาน และพร้อมรับประทาน เหมือนปรุงสดใหม่จากเตา น่องไก่ในข้าวซอยจะไม่มีกระดูก ทำให้รับประทานง่าย มีการใส่เมล็ดชะโก ซึ่งเป็นเครื่องเทศสำคัญในพริกแกงข้าวซอย ถึงแม้จะเป็นอาหารสำเร็จรูป แต่ยังสามารถคงรสชาติตำรับไทยแท้ไว้ได้อย่างครบถ้วน และเส้นของข้าวซอยมีความเหนียวนุ่ม ถึงแม้ว่าจะนำเข้าอุ่นในไมโครเวฟ
ซึ่งได้ส่งเข้าสมัครขอรับตรา Thai SELECT ในปี 2566 เนื่องจากตรา Thai SELECT จะเป็นใบเบิกทางที่ดีในการเจาะตลาดต่างประเทศ จะช่วยให้ผู้บริโภคต่างชาติได้รู้จัก Taste Aree มากขึ้น ต้องการนำสินค้าแห่งความภาคภูมิใจ มีรสชาติไทยดั้งเดิมที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นไปสู่ตลาดโลก นอกจากนี้ตรา Thai SELECT ยังเป็นเครื่องหมายที่จะช่วยการันตีคุณภาพของสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าต่างชาติที่สนใจอยากลองทานอาหารไทยแท้ อีกด้วย
“เริ่มต้นจากความรักของแม่ ดันวัตถุดิบท้องถิ่นสู่ตลาดโลก”
คุณปฤษณา วิมลศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปลาสลิดพอดีคำ จำกัด เปิดเผยว่า ปลาสลิดพอดีคำ เริ่มต้นจากความรักของแม่ที่มีต่อลูก อยากให้ลูกได้กินปลาสลิดที่มีประโยชน์ อร่อย ในรูปแบบที่ง่ายสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องก้างติดคอ จึงนำปลาสลิดที่เป็นของดีของบ้านเกิด ที่อำเภอบางปะกง มาแล่เอาก้างออกเหลือแต่เนื้อล้วน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เคยทำให้ลูกกินอย่างไร ก็ทำขายให้ลูกค้าแบบนั้น จึงเป็นที่มาของแบรนด์ปลาสลิดพอดีคำ
ผลิตภัณฑ์แรกของแบรนด์คือ “ปลาสลิดแบบกรอบ รสดั้งเดิม” ที่นำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาพัฒนาแปรรูป จากความร่วมมือของผู้สูงอายุในชุมชนที่มีประสบการณ์หลาย 10 ปี โดยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม สะดวก พร้อมรับประทาน เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมปัจจุบัน ต่อมาจึงเพิ่มความหลากหลายให้มากขึ้น โดยนำเครื่องแกงสมุนไพรมาผัดปรุงรสกับปลาสลิด โดยใช้ชื่อว่า “สลิดแซ่บ”
มี 3 รสชาติ ได้แก่ ปลาสลิดสามรส ปลาสลิดกะเพรา และปลาสลิดพริกขิง โดยมีจุดเด่น คือ เป็นสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานกับเครื่องแกงสมุนไพรไทย อีกทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการรับประทาน
ที่ถึงแม้เป็นอาหารสำเร็จรูปแต่ยังคงรสชาติท้องถิ่นแท้ดั้งเดิม ประหนึ่งไปนั่งรับประทานที่บางปะกง
ซึ่งได้นำทั้ง 3 รสชาติยื่นสมัครขอรับตรา Thai SELECT ในปี 2566 นี้ เพราะ Thai SELECT เป็นเหมือน
กูรูผู้ให้ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศที่ถูกต้องและชัดเจนแก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาที่ดี และยังช่วยการันตีคุณภาพของสินค้าให้น่าเชื่อถือมากขึ้น
สำหรับกลุ่มตลาดเป้าหมาย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ คนไทยในต่างประเทศ และชาวต่างชาติ (ปัจจุบันส่งออกไปอเมริกา และออสเตรเลีย) เพื่อต้องการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ ต้องการกินปลาสลิดแต่ไม่ชอบทอดปลาสลิด โดยมีการปรับรสชาติให้เผ็ดน้อยลง เพื่อที่ต่างชาติจะได้ทานง่าย มีการปรับ packaging ที่สวยงาม น่าสนใจ ทันสมัย สามารถซื้อมอบเป็นของขวัญ ของฝากได้ และยังดึงจุดขายเรื่องความเป็นไทยแท้ ท้องถิ่นดั้งเดิมมาสร้างเป็นกลยุทธ์ทางการค้าด้วย โดยมีเป้าหมายจะเปิดตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV และจีนใต้ รวมถึงเจาะกลุ่มตลาดประเทศมุสลิม เนื่องจากสินค้ามีตราฮาลาล
“ปลากุเลาเค็มตากใบ ความภาคภูมิใจของชาวใต้”
คุณปัญจพร พันธเสน กรรมการบริษัท กุเลาทองแม่แป้น จำกัด เล่าว่า กุเลาทองแม่แป้น เป็นกิจการครอบครัวที่มีคุณแม่เป็นผู้ริเริ่ม โดยจำหน่ายปลากุเลาเค็มตากใบ จากจังหวัดนราธิวาส ที่สืบต่อภูมิปัญญาของอาม่ามากว่า 40 ปีแล้ว มีกระบวนการในการตาก อบ นวด ทั้งหมด 14 แบบ จนได้เนื้อปลาที่มีเอกลักษณ์ ถูกปากตามที่ต้องการ ต่อมาได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยการขายผ่านช่องทางออนไลน์ผ่านเพจ Facebook “กุเลาทองแม่แป้น ตากใบ” จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ตลอดจนพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามมากยิ่งขึ้น สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การซื้อเป็นของฝากผู้ใหญ่ หรือคนสำคัญ
กุเลาทองแม่แป้น มีโจทย์หลักในการทำธุรกิจที่ต้องการสร้างมูลค่าให้สินค้าท้องถิ่น และต้องการอนุรักษ์
ภูมิปัญญาดั้งเดิมเพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลังต่อไป โดยปัจจุบันมีสินค้า 3 รสชาติ คือ น้ำพริกปลากุเลาเค็ม หย็องปลากุเลาเค็ม และคั่วกลิ้งปลากุเลาเค็ม ทั้ง 3 รสชาติจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของปลากุเลาตากใบ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มายาวนาน เรียกกันว่าเป็น “ราชาแห่งปลาเค็ม” เพียงแค่มี 3 กระปุกนี้ก็จะสามารถผ่านมื้อที่เร่งรีบไปได้ สะดวก พกพาง่าย ทานคู่กับอะไรก็อร่อย
แม้ว่ากุเลาทองแม่แป้นจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่ก็ยังมีคนไทยบางส่วนที่ยังไม่รู้จัก บริษัทฯ จึงตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ คือ คนไทยที่ยังไม่เคยลิ้มลองปลากุเลา และคนไทยในต่างประเทศ เพื่อเป็นการยกระดับสินค้าท้องถิ่นที่สืบต่อภูมิปัญญาของชาวตากใบกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยกระดับให้เป็นของฝากระดับ Premium หรือนำไปเนรมิตให้เป็นมื้ออาหารสุดพิเศษสำหรับครอบครัว ปัจจุบันกำลังเดินหน้าสร้างการรับรู้ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักใน
วงกว้างทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และการสนับสนุนจาก Thai SELECT ด้วย
ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ช่วยยกระดับก้าวไปอีกขั้นในเวทีการค้าระหว่างประเทศ เปรียบเสมือนกุญแจที่จะเปิดประตูการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าและทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปของไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลก
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตรา Thai SELECT ทั้งสิ้น 712 ผลิตภัณฑ์ จากผู้ส่งออก 74 บริษัท
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย อาทิ ได้บรรจุรายชื่อในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ www.thaiselect.com เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 58 แห่งทั่วโลก
ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าและขยายการส่งออก
สำหรับผู้ที่สนใจ ขอเชิญชวนไปพบกับผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX- Anuga Asia 2023 ณ คูหาหมายเลข 9DD15 ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี