ส่องเทรนด์โลจิสติกส์สู่การลงทุนเปิดแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วน

8

ธุรกิจขนส่งพัสดุยังคงร้อนแรง ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินธุรกิจขนส่งพัสดุในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องที่ 18% ด้วยมูลค่า 1.15 แสนล้านบาท ตามการเติบโตของตลาด E-Commerce ที่เติบโตราว 11%

โดยกลุ่มธุรกิจขนส่งพัสดุที่ต่อยอดมาจากธุรกิจ E-Commerce เติบโตก้าวกระโดด ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มปรับตัวเพิ่มช่องทางการขายสินค้าทางออนไลน์ใหม่ ๆ เช่น Live Commerce ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าแบบ B2C ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50% ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDTA) ระบุว่าประเทศไทยมีมูลค่าตลาด E-Commerce กลุ่ม B2C สูงที่สุดในอาเซียนตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) หนึ่งในผู้ให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ภายใต้การดูแลของ เบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ ผู้นำด้านซัพพลายเชนอัจฉริยะแบบบูรณาการ และผู้ให้บริการโซลูชันด้านโลจิสติกส์ในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้นำรูปแบบโมเดลแฟรนไชส์ 100% มาเปิดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2562 ด้วยคอนเซ็ปต์ “Global to Local” ไม่มีใครรู้จักการทำธุรกิจได้ดีเท่าคนในท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันที่มีเครือข่ายแฟรนไชส์ จุดรับ-ส่งพัสดุด่วน ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย

แฟรนไชส์ BEST Express แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
1) First Franchise (แฟรนไชส์หลัก) : ขารับและขากระจายพัสดุ ดูแลรับผิดชอบทั้งจังหวัดหรือเขต อยู่ภายใต้การดูแลของ BEST สำนักงานใหญ่
2) Sub Franchise (แฟรนไชส์รอง) : ขารับและขากระจายพัสดุ ดูแลพื้นที่อำเภอและแขวง อยู่ภายใต้การดูแลของแฟรนไชส์หลัก
3) Shop (ช็อป) : รับพัสดุเพียงอย่างเดียว อยู่ภายใต้การดูแลของแฟรนไชส์หลัก
4) Drop Point (จุดรับพัสดุ) : อยู่ภายใต้การดูแลของแฟรนไชส์หลัก

BEST Express มีการปรับตัวและพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ อาทิ บริการ BEST Tracking Alert แจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติ (Automatic Tracking System) แบบ Real-time ผ่าน LINE Official Account ที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของพัสดุได้ทุกที่ทุกเวลา, บริการ BEST Big Parcel ขนส่งพัสดุด่วนชิ้นใหญ่น้ำหนักจริง 100 กิโลกรัม สำหรับกลุ่มธุรกิจ B2B และ B2C เพื่อขยายฐานลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการส่งพัสดุขนาดใหญ่ เป็นต้น

เมื่อลงทุนเป็นแฟรนไชส์หลักกับ BEST Express จะได้รับเปอร์เซ็นต์ทั้งขารับและขาส่ง และมีสิทธิ์ในการขายแฟรนไชส์ประเภทอื่น ๆ ภายในพื้นที่ที่ดูแล หากมีคนต้องการเปิด Shop หรือ Drop Point ในพื้นที่ เจ้าของแฟรนไชส์หลักจะได้ค่าแฟรนไชส์เต็ม 100%

นอกจากธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน BEST Express แล้ว เบสท์ ประเทศไทย ยังมีในส่วนธุรกิจเบสท์ซัพพลายเชน (BEST Supply Chain) บริหารจัดการคลังสินค้า ธุรกิจเบสท์ ซอฟต์แวร์ (BEST Software) ผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลแบบครบวงจร ธุรกิจเบสท์ คลอส บอเดอร์ (BEST Cross Border) บริการส่งพัสดุต่างประเทศ โดยเตรียมบูรณาการเชื่อมโยง 4 ธุรกิจเข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การให้บริการที่หลากหลายและครบวงจรมากที่สุด

สำหรับนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนกับ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย เพื่อเปิดประตูความสำเร็จให้กับตัวเอง สามารถอ่านรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/3JVgp6m