ทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ในเดือนกรกฎาคมของทุกปีเป็นวันไอศกรีมโลก ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งไอศกรีมได้ชื่อว่าเป็นของว่างที่รับประทานแล้วมีความสุข ความหวานและเย็นของไอศกรีม และรสชาติที่มีมากมาย เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก โดยไม่จำกัดเพศ วัย หรือเชื้อชาติ
ต้นกำเนิดของไอศกรีม ยังไม่เป็นที่แน่ชัด บ้างก็อ้างอิงจากสมัยโรมัน บางข้อมูลก็ระบุว่ามาจากประเทศจีน สำหรับประเทศไทย ได้เริ่มเป็นที่รู้จักในสมัยรัชกาลที่ 5 จนในปัจจุบันของหวานชนิดนี้ได้ถูกพัฒนาจนมีหลายหลายรูปแบบและมีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น ไอศกรีม เจลาโต ชอร์เบต เชอร์เบต หรือซอฟต์ครีม ขึ้นอยู่กับปริมาณสัดส่วนไขมันและกรรมวิธีการผลิต
การรับประทานไอศกรีมที่นำมาซึ่งความสุข แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เนื่องจากวัตถุดิบหลักของไอศกรีมส่วนมากจะมาจากนม ซึ่งการทำฟาร์มวัวนมนั้นมีปริมาณก๊าชเรือนกระจกที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนและระบบนิเวศน์ หากมีการบริหารจัดการที่ไม่ได้มาตรฐาน
นอกเหนือจากด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ไอศกรีมก็ส่งผลต่อสุขภาพ เพราะส่วนประกอบหลัก คือ น้ำนม ครีมหรือนมผง ซึ่งมีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง และมีการผสมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีคอเรสเตอรอลหรือน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากจะส่งผลต่อสุขภาพได้
ในปัจจุบันผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับอาหารทางเลือกมาก ทำให้อาหารจากพืช (Plant Based) ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากมีความโดดเด่นด้านโภชนาการและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในโอกาสวันไอศกรีมโลกปีนี้ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ ขอแนะนำ แฮปปี้ แอดดี้ ไอศกรีมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจากนม อัลมอนด์คั้นสดเต็มเมล็ด ซึ่งอัลมอนด์ เป็นพืชตระกูลถั่ว ที่ได้รับการยอมรับว่าซุปเปอร์ฟู้ด (Superfood) มีแคลเซียม วิตามินและเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมัน ซึ่งไอศกรีม แฮปปี้ แอดดี้ได้รับการรับรองว่าปราศจากนมวัว กลูเตน และมีโซเดียมต่ำ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่แพ้นมวัว ผู้ที่ต้องควบคุมระดับไขมัน เกลือ และน้ำตาล สามารถมั่นใจในกระบวนการผลิตที่ทันสมัยได้รับมาตรฐานคุณภาพรับรองจากหน่วยงานของไทยและสากล อาทิ USFDA (จากสหรัฐอเมริกา), BRC, ISO 22000, ISO 9001 และISO 14001 เครื่องหมายทางเลือกเพื่อสุขภาพ ควบคู่กับนโยบายด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม จนได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 3 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม