นอสตร้า โลจิสติกส์ เล็งเพิ่มฐานผู้ใช้แพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ซัพพลายเชน 20% ภายในปี 2567 รับอนิสงฆ์ธุรกิจขนส่งสินค้าขยายตัวสูง สอดรับข้อมูลวิจัยกรุงศรีพบธุรกิจขนส่งสินค้าทางถนนโตเฉลี่ย 3-5% ต่อปี จากปัจจัยการค้าชายแดนและผ่านแดนเติบโต การซื้อขายออนไลน์คึกคัก ส่งให้การแข่งขันรุนแรง แต่ต้นทุนค่าแรงงานและเชื้อเพลิงเพิ่มสูง ผู้ประกอบการจึงมองหาการลงทุนเทคโนโลยีใหม่เสริมแกร่งเหนือคู่แข่ง เพิ่มประสิทธิภาพช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายยกระดับความปลอดภัย รับนโยบายกรมการขนส่งทางบก
วรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการอาวุโสส่วนซัพพลายเชนโซลูชัน-เทคโนโลยี บริษัท จีไอเอส จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขนส่งทางถนน จากข้อมูลวิจัยกรุงศรีพบธุรกิจขนส่งสินค้าทางถนนเติบโตเฉลี่ย 3-5% ต่อปี ในช่วงปี 2565-2567 ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของภาคการผลิต การค้า และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ทั้งยังพบการแข่งขันที่รุนแรงจากจำนวนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นและด้านราคา บวกกับต้นทุนค่าแรงงานและเชื้อเพลิงที่เพิ่มเป็นอุปสรรคต่อผลประกอบการของธุรกิจ โดยแนวโน้มของธุรกิจขนส่งมีการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มความโปร่งใสของระบบโดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกันได้ระหว่างระบบแบบ Ecosystem และสามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์แผนงานต่อได้อย่างยั่งยืน
“ช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้ประกอบการธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์เพิ่มการลงทุนเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อช่วยการบริหารจัดการงานขนส่งให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และช่วยลดต้นทุน โดย NOSTRA LOGISTICS พัฒนาแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ซัพพลายเชนมากว่า 20 ปี เห็นถึงสิ่งที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องการ และตอบโจทย์แก่ธุรกิจอย่างสมบูรณ์ ด้วย 3 จุดแข็งของผลิตภัณฑ์และการบริการ คือ 1.ให้บริการผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีความสามารถบริหารจัดการในทุกกิจกรรมการขนส่งและสามารถบริหารจัดการทั้งรถของธุรกิจและรถเอาท์ซอร์ส 2.มีระบบและเทคโนโลยีสนับสนุนการบริหารจัดการและตรวจสอบความปลอดภัยด้านการขนส่ง เป็นมากกว่างานบริหารและติดตามงานขนส่ง 3.บูรณาการระบบให้เชื่อมต่อเข้ากับระบบไอทีอื่นๆ เพื่อทำงานร่วมกันได้ตลอดโลจิสติกส์ซัพพลายเชน เช่น ERP, WMS โดยความสามารถทั้งหมดนี้ ช่วยลดต้นทุนด้านงานขนส่งได้สูงสุด 15-20% ตลอดจนยกระดับความปลอดภัยด้านงานขนส่งสูงสุด”
วรินทร กล่าวเสริมว่า ความปลอดภัยในการขับรถบนท้องถนนนับเป็นสิ่งสำคัญของการบริหารจัดการงานขนส่ง ทั้งจากที่กรมการขนส่งทางบกออกประกาศให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารและรถบรรทุกในประเทศไทยต้องจัดให้มีบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (TSM) อีกทั้งยังมีงานหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการความปลอดภัยด้านการขนส่ง เช่น รถ การบรรทุกและโดยสาร คนขับรถ การเดินรถ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งต้องวางแผนและควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยในการขนส่ง รวมทั้งมีแผนการจัดการและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งจากความสามารถของผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์ม NOSTRA LOGISTICS สามารถสนับสนุนภารกิจด้านความปลอดภัยในการขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการ ด้วยฟังก์ชันการทำงานบริหารจัดการงานขนส่งที่ครอบคลุมทุกด้าน (TMS) มีระบบแผนที่งานขนส่งแม่นยำสูง และสามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยี Telematics เช่น กล้อง MDVR, กล้อง ADAS, กล้อง DMS ซึ่งสามารถทำงานร่วมกัน หรือเรียกว่า MDVR – All in One(AIO) เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในงานขนส่ง รวมถึงความสามารถในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) ผ่านการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงรายงานด้วย Dashboard ที่เข้าใจง่าย สนับสนุนการทำงานและการตัดสินใจได้รวดเร็ว
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ยังสามารถนำระบบ NOSTRA LOGISTICS ไปใช้งานได้ง่าย ได้แก่ 1.ผู้ประกอบการธุรกิจที่จัดการงานขนส่งด้วยตนเอง 2.ผู้ประกอบการธุรกิจที่ให้บริการขนส่ง มีกลุ่มรถของตัวเอง และมีกลุ่มรถของผู้รับจ้างช่วงงานขนส่งร่วมด้วย และ 3.ผู้ประกอบการธุรกิจที่ให้บริการขนส่ง หรือการรับจ้างช่วงงานขนส่ง โดยมีเป้าหมายคือ เพิ่มความสามารถให้แพลตฟอร์ม NOSTRA LOGISTICS พร้อมสนับสนุนทุกกิจกรรมการทำงานของผู้ประกอบการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำงานสะดวกขึ้น ตลอดจนช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อผลกำไรเพิ่มขึ้นแก่ธุรกิจ โดยจำนวนรถที่ใช้งานแพลตฟอร์ม NOSTRA LOGISTICS ปัจจุบัน 30,000 คัน เล็งเพิ่มผู้ใช้ 20% ภายในปี 2567
” อย่างไรก็ดี NOSTRA LOGISTICS พร้อมเป็นระบบการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีความสามารถครบวงจร ทั้งพื้นฐานในการบริหารจัดการและติดตามงานขนส่ง และการบริหารจัดการและตรวจสอบความปลอดภัยในการขนส่ง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการขนส่งและโลจิสติกส์ไทย พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งทางถนนให้แก่ทั้งธุรกิจและภาครัฐอย่างยั่งยืน” วรินทร ล่าวทิ้งท้าย