“จระเข้” ส่ง Jorakay Natural Color เจาะกลุ่มลูกค้า ชูความโดดเด่นด้านความปลอดภัย

28
นายวิกิจ กันฉาย

“จระเข้ คอร์ปอเรชั่น” ผู้นำผลิตภัณฑ์ปูกระเบื้อง และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง เอาใจคนรักษ์โลก ส่งสีจระเข้ หรือ SEE Jorakay Natural Color สีปลอดภัย สีธรรมชาติ มุ่งเน้นเจาะกลุ่ม ลูกค้า ชูจุดเด่นสุดยอดผลิตภัณฑ์สีทาอาคารที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ พร้อมกับนวัตกรรมรักษ์โลกที่มีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อน จากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการคำนึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ กระบวนการผลิตเพื่อความความยั่งยืน หรือ Sustainability พร้อมลุยตลาดชิงส่วนแบ่งตลาดสีทาอาคารที่มีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท

นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานขายในประเทศ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสีทาอาคารในประเทศไทยเมื่อปี 2566 มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2567 นี้ ตลาดสีทาอาคารในประเทศไทย น่าจะมีการเติบโตขึ้นประมาณ 3-5% ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนของรัฐบาล ตลอดจนทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับภาพจำว่าจระเข้ เป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูกระเบื้อง ผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง และผลิตภัณฑ์จระเข้อีซี่ แต่จริง ๆ แล้วจระเข้มีผลิตภัณฑ์สีด้วย โดยผลิตภัณฑ์สีจระเข้มีความคลุมทั้งสีทาภายใน สีทาภายนอก สีเท็กเจอร์ สีสร้างลายต่างๆ และสีรองพื้น โดยแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ก็จะมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ตามคุณสมบัติของสี ซึ่งผลิตภัณฑ์สีจระเข้นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด

และเพื่อต่อยอดสีที่มีความปลอดภัย เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ บนพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ผู้อยู่อาศัย และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกิดกลุ่มผลิตภัณฑ์ Natural Color ขึ้นมา

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Natural Color หรือกลุ่มสีธรรมชาตินั้นเป็นสีที่ผลิตจากวัตถุดิบที่คำนึงถึงความสมดุลของระบบนิเวศน์ หรือ Ecological คือ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างหินไลม์สโตน (Limestone) หรือหินปูนธรรมชาติ คุณภาพสูงมาใช้ในรุ่นเรือธงอย่าง ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม(สีทาภายนอก) และอีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม(สีทาภายใน) โดยมีคุณสมบัติน่าสนใจดังนี้

1. สีที่มีความปลอดภัย ปราศจากสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Zero VOCs) และไม่มีสารก่อมะเร็ง (Non formaldehyde) ไร้กลิ่นฉุน สามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังจากทาสีเสร็จเรียบร้อย

2. สีที่ให้ความสบายตา จากเนื้อสีแมตต์ (สีด้าน) ที่ช่วยลดการสะท้อนของแสง ให้ความรู้สึกสบาย สร้างความผ่อนคลาย ให้แก่ผู้อยู่อาศัย

3. สีที่มีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อน สำหรับสีจระเข้รุ่นไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม และรุ่นอีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ในขณะที่สีแห้งตัว โดยสีจระเข้ขนาด 15 ลิตร จำนวน 3 ถัง มีความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนัก 250 กิโลกรัม ในระยะเวลา 1 ปี

4. สีที่มีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดของการหมุนเวียนการบริโภค โดยสีจระเข้ รุ่น ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม, อีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม และ กราฟคลีน พรีเมี่ยม ผ่านการรับรองมาตรฐาน Cradle to Cradle โดยสถาบัน The Cradle to Cradle Products Innovation Institute เป็นการยืนยันว่าจะไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงเมื่อสิ้นอายุของผลิตภัณฑ์

5. สีที่มีความยืดหยุ่น ด้วยกราฟีนเทคโนโลยี มีความสามารถในยึดเกาะสูง และมีความยืดหยุ่น สามารถปกปิดพื้นผิวจากรอยแตกขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี
6. สีที่สามารถระบายความชื้นได้ มีส่วนช่วยในการลดโอกาสในการเกิดปัญหาสีโป่งพอง สีลอกล่อน ช่วยให้สีสวยงามยาวนานยิ่งขึ้น

นายวิกิจ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเราได้เปิดตัวกลุ่มสีปลอดภัย สีแมตต์ที่เช็ดล้างง่าย สีจระเข้ อีซี่คลีน พรีเมี่ยม (SEE Jorakay EasyClean) ที่นำมาจัดแสดงในงานสถาปนิก 67 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมบูธเป็นอย่างมาก ด้วยสีจระเข้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากสีทาอาคารทั่ว ๆ ไป ในปัจจุบัน ในช่วงนี้ทางบริษัทฯ จึงมุ่งเน้นทำการตลาดด้วยการสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภคทราบถึงคุณสมบัติ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ และตัวตนของสีจระเข้ โดยเฉพาะการผลิตภัณฑ์ที่มีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม มีความตระหนักถึง สุขภาวะอนามัยของผู้ใช้งาน และผู้อยู่อาศัยอย่างครบวงจร

อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้ เรามองว่าผลิตภัณฑ์ที่มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ กระบวนการจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้สีทาอาคารไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมในอนาคต