วันหยุดสุดสัปดาห์เป็นช่วงเวลาที่เหล่านักเดินทางต่างมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้ ๆ กรุงเทพฯ โดยเฉพาะจังหวัดในภาคกลาง ซึ่งใช้เวลาขับรถไปไม่ไกล มีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือจังหวัดสมุทรสงคราม ดินแดนแห่งสายน้ำและความชุ่มฉ่ำใจ
เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้เดินทางไปยังสมุทรสงคราม โดยวางหมุดหลักที่ “อัมพวา” แม้จะไปมาแล้วหลายครั้งก็ยังถูกใจ เพราะนอกจากตัวตลาดแล้ว ยังมีที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว ที่ชวนกันไปกินไปชิลกันได้ทั้งครอบครัว
แต่ก่อนจะเข้าสู่ตัวตลาดในช่วงเย็น ๆ เรามุ่งหน้าสู่ อ.บางคนที กันก่อน ชวนทุกคนไปตามหา “ส้มโอที่อร่อยที่สุด” อีกแหล่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นส้มโอ GI ที่ “สวนพลอยสุภา” ต.บางสะแก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
บุกสวนส้มโอขาวใหญ่ GI สมุทรสงคราม
มาถึงสวนพลอยสุภา ก็จะได้เจอกับเจ้าของสวน คุณลุงประวิตร คุ้มสิน และลูกสาว “จิตสุภา คุ้มสิน” ผู้ที่จะมาสืบทอดภูมิปัญญาการปลูกส้มโอที่มีรสชาติอร่อยสุด ๆ โดยมีส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ เป็นผลไม้ท้องถิ่นที่ปลูกกันมานาน ปัจจุบันเป็นผลไม้ประจำจังหวัดที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในแถบนี้ได้เป็นอย่างดี
ส้มโอขาวใหญ่ของจังหวัดสมุทรสงคราม มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อแห้งนุ่มแน่น สินค้าที่ได้รับรองเป็นสินค้า GI หรือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication) มาแล้วจะได้เรียนรู้การปลูกส้มโอ เดินชมสวนส้มโอ การเลือกส้มโอ การปอกส้มโอ รวมทั้งการแปรรูปส้มโอ ซึ่งปัจจุบันเกือบจะกลายเป็น Zero Waste เพราะนำเปลือกส้มโอมาทำเป็นขนมได้ด้วย
ใครที่อยากมาชม มาชิม มาทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ติดต่อทางสวนเข้ามาได้ ในสวนยังมีผลไม้อื่น ๆ เช่น ลิ้นจี่ และส้มแก้ว พันธุ์ท้องถิ่นดั้งเดิมของที่นี่
สวนส้มโอพลอยสุภา
โทร. 086 4145923 081 0119820
ตามรอยศรัทธา วัดบางสะแก
นอกจากได้เรียนรู้เรื่องส้มโอแล้ว วันนี้คุณลุงประวิตรยังแนะนำให้เราแวะไปชม “วัดบางสะแก” เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นสมัยอยุธยา ตามประวัติกล่าวว่าเคยเป็นวัดร้างประมาณ 200 ปีเศษในสมัยกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ก็ถือว่ามีอายุยาวนานนับร้อยปี
ไฮไลต์ที่ควรค่าแก่การเข้าชมและสักการะคือพระพุทธรูปในอุโบสถปางมารวิชัย และพระประธานในวิหาร ซึ่งเป็นพระศิลาแลงปางมารวิชัย รวมทั้งรูปแกะสลักไม้สักที่หน้าบันเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ เป็นของเก่าจากอุโบสถหลังเดิม
วันหยุดสุดหรรษา ที่ตลาดน้ำอัมพวา
“อัมพวา” เป็นชุมชนริมน้ำแม่กลอง ซึ่งจะแยกย่อยเป็นลำคลองสายเล็กสายน้อยอีกหลายสาขา โดยมีจุดรวมความสุขใจอยู่ที่ตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งจะบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ทั้งร้านรวงริมตลิ่ง และชาวเรือ จะมารวมตัวกันในทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ปัจจุบันตลาดน้ำอัมพวาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติ เปิดขายตั้งแต่ช่วงสาย ๆ ไปจนถึงค่ำ แต่ช่วงเวลาที่คึกคักสุด ๆ คือช่วงเย็น
เสน่ห์ที่ไม่เคยเสื่อมคลายของอัมพวาคือตลาดริมน้ำที่มีบรรยากาศโล่งโปร่งสบายตา มีข้าวของให้เลือกซื้อหาเยอะมาก ถือเป็นสวรรค์ของนักกินเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังมีของใช้ ของฝาก ของที่ระลึก ที่นำเสนอเอกลักษณ์วิถีไทยมาให้ได้ชื่นชม อีกทั้งยังต่อยอดเป็นสินค้าใหม่ ๆ ออกมาได้อย่างเก๋ไก๋
เย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเดินเล่นที่ตลาดน้ำอัมพวากันอย่างคึกคักเช่นเคย เป็นสีสันแห่งความเพลิดเพลินใจที่พบเห็นได้ทุกครั้งที่มาเยือน บ้างก็เดินเล่น บ้างก็นั่งชิลกันตามร้านอาหารหรือคาเฟ่ริมน้ำ บ้างก็ใช้บริการล่องเรือท่องเที่ยว ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็เบิกบานสุด ๆ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มาแล้วมาอีกก็ประทับใจ มาเที่ยวได้ไม่มีเบื่อเลย
เช้านี้ที่ชิลกว่า ตลาดน้ำท่าคา
ค่ำคืนที่ “บ้านอัมพวา รีสอร์ท แอนด์ สปา” เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่แสนอบอุ่นใจ เมื่อถึงยามเช้าที่แสนสดชื่น เรามุ่งหน้าไปที่ “ตลาดน้ำท่าคา” อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ตลาดน้ำท่าคา เป็นตลาดเล็ก ๆ ในลำคลองสายย่อย เปิดค้าขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เช้าไปถึงเที่ยง สินค้าส่วนใหญ่เป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ชาวบ้านนำมาวางขายริมน้ำ รวมทั้งพายเรือมาเทียบตลิ่ง สะท้อนวิถีชุมชนแบบดั้งเดิม เรียบง่าย ไม่เร่งรีบ เป็นภาพที่หาดูได้ยากท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย มองแล้วสบายตาสบายใจ กดปุ่มรีเฟรชเริ่มต้นวันใหม่อย่างกระชุ่มกระชวย
ทุกครั้งที่อยากหนีเมืองออกไปฮีลใจ นี่คือความสุขเรียบง่ายสไตล์สมุทรสงคราม ที่ยังสร้างความประทับใจของใครให้ผู้มาเยือนอยู่เสมอ
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง ทริปสมุทรสงคราม-เพชรบุรี วันที่ 20-22 กรกฎาคม 2567