นับเป็นข่าวที่น่าชื่นใจ เมื่อศูนย์การค้าของไทย ได้รับการประกาศว่า เป็นโครงการที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบที่ล้ำสมัย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทไทย ที่สามารถพัฒนาโครงการค้าปลีกจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ‘ไอคอนสยาม’ ประกาศว่า ‘สยามดิสคัฟเวอรี่’ ได้รับไอซีเอสซี วีว่า อวอร์ด (ICSC’s VIVA Award) รางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับธุรกิจค้าปลีกของโลก ในด้านคอนเซ็ปต์โครงการและ ‘ดีไซน์การออกแบบอันล้ำสมัย’ จากสมาคมศูนย์การค้าโลก (International Council of Shopping Centers – ICSC) ซึ่งเป็นสมาคมศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในพิธีมอบรางวัลที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา สยามดิสคัฟเวอรี่ได้รับรางวัล อันทรงเกียรติสูงสุด สามารถเอาชนะผู้แข่งขัน หลายร้อยโครงการจากทั่วโลกที่ร่วมเข้าชิงรางวัล
ทั้งนี้ การประกาศรางวัล ไอซีเอสซี วีว่า อวอร์ด (ICSC’s VIVA Award) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญอิสระ เพื่อยกย่องโครงการอสังหาริมทรัพย์สำหรับธุรกิจค้าปลีกที่เป็นที่สุดของที่สุดในโลกในสาขาต่างๆ
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์ดำเนินกลยุทธ์เพื่อการเติบโตด้วยการนำเสนอสิ่งที่แตกต่างและไม่เคยมีใครทำมาก่อนในวงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด เรามุ่งมั่นรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยทั้งในประเทศไทยรวมถึงในเวทีโลก ผ่านการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้ประกอบการร้านค้าและพันธมิตรคู่ค้าอื่นๆ ในทุกโครงการของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค ไทยแลนด์ 4.0 ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดสร้างสรรค์และการผนึกกำลัง สามารถนำธงชาติไทยขึ้นไปโบกสะบัดบนเวทีระดับโลกด้วยชัยชนะอย่างสง่างาม”
สยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดดำเนินการในปีพ.ศ. 2540 ได้รับการพลิกโฉมด้วยเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท และเปิดให้บริการหลังการปรับปรุงใหญ่ใน พ.ศ.2559 ในฐานะไลฟ์สไตล์สเปเชียลตี้สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเพื่อให้เป็นสนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุด โดยใน 2 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างปรากฎการณ์กวาดรางวัลชนะเลิศ Global Award จากเวทีอันทรงเกียรติระดับนานาชาติมาแล้วถึง 6 รางวัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก 2 เวทีใหญ่แห่งปีของวงการค้าปลีกและวงการศูนย์การค้าระดับโลก ได้แก่ รางวัล World Retail Awards part of the World Retail Congress Global Series สาขา Best Store Design of the Year 2017 ในฐานะโครงการที่ได้รับการคัดเลือกว่าออกแบบดีที่สุดในโลก และอีก 2 รางวัลชนะเลิศจาก สมาคมศูนย์การค้าโลก (International Council of Shopping Centers) Gold Award สาขา Design and Development Excellence Renovations/Expansions ในฐานะโครงการที่ได้รับคัดเลือกว่าออกแบบดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และรางวัลชนะเลิศ Gold Award สาขา Marketing Positioning & Brand Awareness ในฐานะโครงการที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดรวมถึงสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ให้กับโครงการได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดในเอเชียแปซิฟิก
ในครั้งนี้ คณะกรรมการไอซีเอสซี (ICSC) ผู้พิจารณาและตัดสินได้ยกย่องสยามดิสคัฟเวอรี่ในการพลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ “ถือเป็นโครงการที่เยี่ยมยอดอันเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ก้าวข้ามจากการออกแบบพื้นที่ศูนย์การค้าทั่วๆไป ไปสู่การ “สร้างพื้นที่” แบบเปิดโล่ง Open space ให้เกิดประสบการณ์หลากหลายมิติ ทั้งยังเป็นโครงการแรกที่สามารถเปลี่ยนธุรกิจค้าปลีกให้เป็นเรื่องของการสร้างประสบการณ์ และรู้จักใช้พื้นที่ให้เกิดความตื่นตาตื่นใจและเร้าใจแก่ผู้มาเยือน มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำสมัยมาสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงและรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมแบบอินเตอร์แรคทีฟได้อย่างเต็มที่”
“สยามดิสคัฟเวอรี่เป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางรูปแบบไฮบริดรีเทลที่สร้างการพลิกเกมส์ครั้งยิ่งใหญ่ในวงการค้าปลีก ถูกสร้างขึ้นจากการนำความปรารถนาและไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาเป็นที่ตั้ง มีสินค้า บริการ และกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม millennials สินค้าต่างๆ ถูกนำเสนอโดยไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของแบรนด์และการออกแบบ แต่คำนึงถึงการบอกเล่าเรื่องราวและความเป็นมาของสินค้าที่ตรงกับเทรนด์และความสนใจของลูกค้าเป็นสำคัญ เป็นเสมือนเพื่อนที่รู้ใจซึ่งลูกค้ากลุ่ม millennials สามารถมาค้นพบจุดยืนและสไตล์ที่แตกต่างของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้ร่วมมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับผู้อื่น ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ลูกค้าจะได้ทดลองและค้นพบสิ่งที่ชอบ รวมทั้งสามารถสร้างสินค้าขึ้นมาเองตามความต้องการเฉพาะตัว (personalized) นอกจากนี้ วิธีทำการตลาดได้ถูกกำหนดขึ้นในแนวแปลกใหม่ให้เป็นการบริหารอารมณ์และความรู้สึกของลูกค้า และชักชวนให้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันตามความสนใจ อีกทั้งร่วมกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและโลกอีกด้วย” นางชฎาทิพ กล่าว