“VIEWZFINDER” สุทาทิพย์ แซ่ปึง เผยวิถี Freelance Fashion Photography

3684

“VIEWZFINDER” สุทาทิพย์ แซ่ปึง
เผยวิถี Freelance Fashion Photography
อาชีพนี้ต้องมีวินัย และสไตล์ที่โดดเด่น

อาจจะดูเป็นเรื่องบังเอิญที่ชื่อเล่นของเธอช่างสอดคล้องกับส่วนหนึ่งของกล้องถ่ายรูป จนทำให้ “viewzfinder” ที่ระบุอยู่บนนามบัตร facebook IG หรือ website ดูมีความหมายยิ่งขึ้น เพราะมันไม่ได้หมายความแค่คำว่า “ช่องมองภาพ” แต่หมายรวมถึง “มุมมองของวิว” สาวชิคหลังเลนส์ที่กำลังไปได้สวยในสายอาชีพที่คนส่วนใหญ่บอกว่า มันเท่จังเลยนะ
ถ่ายเล่นๆ จนจริงจัง
“วิวไม่ใช่คนที่ถ่ายรูปเพื่อที่จะเท่ไปวันๆนะ แต่มันคืออาชีพที่ต้องจริงจังมากๆ”
วิว-สุทาทิพย์ แซ่ปึง ช่างภาพอิสระด้านแฟชั่น เคยเป็นหนึ่งในเด็กไทยส่วนใหญ่  ที่ไม่เคยรู้ว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไร ไม่รู้กระทั่งว่าอยากเรียนอะไร จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เลือกคณะตามเพื่อนไปงั้นๆ แต่ที่สุดเธอก็มีแรงบันดาลใจ จากการถ่ายภาพเพื่อนๆ เพื่อทำหนังสื่อรุ่นก่อนจบม.ปลาย

“สมัยเรียนคุณพ่อได้ซื้อกล้อง DSLR มาตัวหนึ่ง เป็น Nikon D80 เคยยืมมาถ่ายเพื่อนๆ ตอนทำหนังสือรุ่น ถ่ายเล่นๆ ไป เพื่อนก็บอกว่าเราถ่ายรูปสวยนะ ก็คิดในใจว่าหรือเราจะชอบถ่ายรูป ตอนแรกที่จะเลือกคณะเข้ามหาวิทยาลัย ก็เลือกตามเพื่อน ซึ่งในใจไม่ได้ชอบ จนมาเจอคณะศิลปะและการออกแบบ สาขาภาพถ่าย ที่ ม.รังสิต จึงคิดว่าน่าจะตรงใจ”

วิวเข้าเรียนที่ ม.รังสิต และได้รับทุนเรียนดีของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ นั่นเป็นอีกจุดที่ทำให้เธอต้องมุมานะในการเรียน ต้องแอคทีฟมากกว่าใครๆ สอดคล้องกับพื้นฐานของการเป็นลูกสาวคนโต ในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนที่ต้องเคร่งครัดเรื่องวินัย

“วิวได้ฝึกงานและเลือกสหกิจศึกษารวมประมาณ 6 เดือนที่ Image Magazine โชคดีที่เจอหัวหน้าช่างภาพอย่างพี่เบิร์ด ซึ่งเปรียบเสมือนครูคนหนึ่งของวิว ทุกอย่างมันต่างจากการเรียน เพราะนี่คือของจริง”ช่วงฝึกงาน ช่วยให้เชื้อไฟในใจของวิวให้คุกรุ่นขึ้น ได้ทั้งความรู้และมุมมองที่กว้างขึ้น ประกอบกับเป็นคนชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่น จึงนำเสนอถ่ายภาพสไตล์แฟชั่นในงานธีสิส

สถานการณ์พลิกชีวิต
ช่วงเรียนจบ มีเหตุให้ต้องช่วยธุรกิจของที่บ้านอยู่เกือบปี ระหว่างช่วยงานที่บ้าน เป็นช่วงที่ธุรกิจออนไลน์กำลังเริ่มบูม เธอเห็นเสื้อผ้าของดีไซเนอร์แบรนด์ไทยเริ่มโพสต์ขายบนออนไลน์ และเริ่มคิดที่จะทำอะไรบางอย่าง จนกลายเป็นผู้บุกเบิกช่องทางนี้เลยก็ว่าได้
“ตอนนั้นวิวลองเลือกร้านเสื้อผ้าที่คิดว่าโอเค และยังไม่มีรูปดีๆ อาจจะแค่ถ่ายเองแล้วอัพขึ้นออนไลน์ หรือถ่ายมาแล้วยังไม่เป๊ะ ชุดสวยแต่นางแบบผิดอะไรทำนองนี้ วิวเลือกผลงานของตัวเองส่งให้ร้านเหล่านั้นดู นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการถ่าย Lookbook แฟชั่นรายแรกบนออนไลน์”

การเติบโตมากับแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น ย่อมหมายถึงชื่อเสียงและความสำเร็จที่สร้างมาด้วยกัน จึงมีการเรียกใช้งานอย่างต่อเนื่องและเกิดการบอกต่อ เธอออกไปเดินตามฝันของตัวเอง

ส่องชีวิตคนหลังเลนส์
การทำงานของวิวเริ่มต้นที่การแชร์ไอเดียกับลูกค้า และจะนำเสนองานแบบครบวงจร ทั้งการหานางแบบ ช่างแต่งหน้าทำ สไตล์ลิสช่างพร็อพ โลเคชั่น ทุกอย่างเป็นการรวมตัวของคนทำงานฟรีแลนซ์ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีซิกเนเจอร์ของตัวเอง“

 

 

ในบางครั้งเราก็รวมตัวกันทำโปรเจ็ค คือถ้าวิวเห็นน้องดีไซเนอร์หน้าใหม่ งานดี ชุดสวย ก็จะคุยกับสไตล์ลิส ช่างแต่งหน้าว่า มาทำแฟชั่นเซ็ทให้น้องเขาไหม หรือนางแบบหน้าใหม่ที่ยังไม่มีพอร์ท เรามาทำโปรเจ็คให้น้องเขากันไหม ก็จะปรึกษากันในทีมงานว่าแต่ละคนอยากทำอะไร แล้วทุกคนก็จะได้อัพเดทพอร์ทของตัวเอง”

เมื่อขั้นตอนการถ่ายงานเสร็จสิ้นลง วิวจะต้องตรวจเช็คไฟล์งานทุกครั้งที่ถ่ายเสร็จ และทำหน้าที่ด้านการตกแต่งภาพต่อ เพื่อส่งมอบงานให้เสร็จตามกำหนด

“งานถ่ายภาพมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราใช้กล้องอะไร แต่อยู่ที่ว่าเราถ่ายอะไร มันไม่มีใครจบหลังกล้อง ต้องเข้าโปรแกรมอะไรสักอย่างเพื่อตกแต่งอีกมากน้อยตามที่ต้องการ ซึ่งรูปที่ออกมา มันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของคนแต่งรูปด้วย อย่างวิวจะติดหวานนิดๆ และไม่ชอบให้นางแบบผิวสีเหลืองมาก มันจะเป็นลักษณะของช่างภาพแต่ละคนด้วย”

สำหรับการคิดราคา วิวอธิบายว่า ขึ้นอยู่กับโจทย์ และไม่ได้มีค่าเหนื่อยตามเข็มนาฬิกาเหมือนช่างภาพทั่วไป“ช่างภาพส่วนใหญ่คิดกันเป็นชั่วโมงทำงาน แต่วิวคิดว่าเราควรคิดตามรายละเอียดมากกว่า โดยคำนวณจากจำนวนชุด รูปแบบความยากง่าย การจัดไฟ จัดฉาก วิวไม่ชอบการเร่งเวลา ถ้างานไม่เสร็จก็ต้องชาร์จไปเรื่อยๆ วิวจะบอกว่าโปรเจ็คนี้ให้มาเลยก้อนหนึ่ง จะต่อเวลาก็จะจ่ายค่าสตูดิโอเอง”

ถึงตอนนี้วิวยังคงเน้นย้ำเรื่องวินัยและความรับผิดชอบในการทำงาน ซึ่งไม่เฉพาะแต่ตัวช่างภาพ แต่หมายถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ทุกวันนี้อาชีพช่างภาพอิสระด้านแฟชั่น ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีมืออาชีพเดินวนมาวนไปในเวทีนี้อยู่มาก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสร้างลายเซ็นต์และสร้างการยอมรับทำให้มีงานต่อเนื่องได้

อาชีพนี้มีต้นทุน
ทุกคนทราบดีว่า อุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพไม่ใช่ของถูก และกล้องคุณภาพสูงก็ย่อมมีผลกับงานที่ต้องการคุณภาพสูงด้วย

“อะไรที่มันจำเป็นต้องใช้ก็ต้องซื้อ ช่วงเริ่มต้นแรกๆ ก็เป็นอุปกรณ์ที่มาจากการเรียน พอเริ่มมีงาน มีเงินเก็บก็เริ่มซื้อ อุปกรณ์เพิ่มมาเรื่อยๆ อย่างชุดไฟก็ต้องลงทุนซื้อเป็นของตัวเอง เพราะจะตัดปัญหาจุกจิกจากการเช่า แต่ไม่ใช่ว่ากล้องตัวไหนออกใหม่แล้วต้องซื้อ มันจะเป็นไปตามศักยภาพและความจำเป็นในการใช้งาน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน”

ความสุขผ่าน viewzfinder
ความสุขของการเป็นช่างภาพ คือการได้ทำในงานที่รักและถนัด และอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นงานที่ช่วยสนับสนุนความสำเร็จของผู้อื่นด้วย ทุกงานของวิวจึงหมายถึงการทุ่มเท สนุก และมีความสุขกับมันเสมอ
“ทุกงานคือความสนุก เพราะเราเต็มที่ทุกงาน วิวเคยร่วมงานกับแบรนด์หนึ่ง สร้างผลงานกึ่งแฟนตาซีออกมา วิวลงไปคุยกับเขาตั้งแต่เริ่ม ช่วยคิดช่วยดูเกือบทุกอย่าง บ้าพลังมาก จนมีคอลเล็คชั่นที่ 1 แล้ว ก็มีคอลเล็คชั่นอื่นๆ ต่อมา มันเหมือนเราได้เริ่มต้นและโตมากับเขา มีส่วนทำให้เขาขายดีในช่วงนั้น และกลายเป็นที่กล่าวถึง จนในตอนนั้นแบรนด์อื่นๆ ก็อยากได้ฉากแบบนั้น งานแบบนั้นกันหมด

อยากเป็นแบบพี่วิวทำไงดี
“ต้องถามว่าอยากเป็นช่างภาพแบบไหน หากเป็นช่างภาพแนว Artist ก็ต้องสร้างคอนเซ็ปต์งาน และสื่อออกมาให้ได้ ซึ่งเธอคิดว่ามันยากมาก ส่วนช่างภาพแนว Commercial แบบที่เธอเป็นอยู่ คือการประยุกต์ศิลปะเข้ามาในงานเชิงพาณิชย์ และหากอยากเป็นช่างภาพที่ดี ก็ต้องอาศัยความรับผิดชอบอย่างมาก งานถ่ายภาพเป็นเรื่องที่ต้องจริงจังมากๆ วิวไม่ได้เป็นคนแบบว่า ถ่ายรูปเพื่อจะเท่ไปวันๆ วิวคิดอยู่แวบนึงว่า หากวันหนึ่งเราตาย ผลงานเรายังอยู่ เขาจะพูดถึงเรายังไง หลายคนบอกว่าวิวเริ่มต้นแล้วไปได้เร็ว วิวก็ไม่รู้ตัวหรอก รู้เพียงแต่ว่า ในเส้นทางนี้ มีทั้งคนที่หยุด คนที่ช้ากว่าเรา หรือคนที่แซงเราไปแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องแคร์ เพราะจะอยู่ตรงไหนเราก็มีซิกเนเจอร์ของตัวเอง และมีวินัย ความรับผิดชอบเป็นหลักในการทำงาน”

คำว่าอาชีพช่างภาพ ในสายตาคนกลุ่มหนึ่งมองว่าเท่ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งอาจจะไม่รู้จักมันเลย และอาจจะถูกมองเป็นแค่มนุษย์ที่สะพายกล้องเดินไปเดินมา โดยไม่มีสาระอะไรเลยด้วยซ้ำ

“แรกเริ่ม คนที่ไม่เชื่อมั่นเลยคือญาติและคนทั่วไป เขาไม่รู้ว่าอาชีพช่างภาพทำอะไร คิดว่าถ่ายเล่นๆไปตามสะพานพุทธอะไรแบบนั้น ส่วนที่บ้านวิวเขายอมรับตั้งแต่เริ่มเรียน ซึ่งเราไม่ได้เรียนเล่นๆนะ จบเกียรตินิยมอันดับ 1 นะ ตอนไปฝึกงานก็แฮปปี้นะ ถึงจะเป็นการฝึกงานเราก็จริงจัง พี่ๆเขาเอ็นดู เพราะเราเป็นคนมีวินัย ตรงต่อเวลา ฝึกงาน 6 เดือนมาสายแค่ครั้งสองครั้งเองนะ มาถึงการทำงานวินัยก็ต้องเป๊ะมาก”

วินัย ความรับผิดชอบ จริงจัง และสร้างสรรค์ให้เป็น คือเส้นทางที่ช่างภาพสาวชิคได้ปูทางมา และจะเป็นแรงหนุนที่ดีสำหรับความสำเร็จต่อไปในวันข้างหน้า ซึ่งหลักการเหล่านี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ และควรเลียนแบบเป็นอย่างยิ่ง

ABOUT VIEWZFINDER
-เธอมีงานมากกว่า 10 โปรเจ็คต่อเดือน ซึ่งรวมทั้งการถ่ายและตกแต่งภาพด้วยตัวเอง
-วิวจะต้องมีกล้องสำรองเผื่อไว้เสมอ เท่ากับเธอต้องมีกล้อง 2 ตัวในการทำงาน
-ช่างภาพในดวงใจของเธอ คือ TIM WALKER
-ติดตามผลงานของวิวได้ที่ www.viewzfinder.com IG : viewzfinder Facebook : Viewzfinder. Photography